Getting My ตลาดหุ้นแดง To Work

สีเหลือง = หลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราต่อยอดได้ว่าหากตลาดหุ้นลงหนักๆ ถ้าหุ้นตัวใดไม่เปลี่ยนแปลงก็อาจตีความหมายว่า หุ้นนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าตลาดนั่นเอง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกท่านยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การค้าไม่เอื้อประโยชน์ "วิกฤต"ตลาดหุ้นไทย

เพราะด้วยราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทำให้การใช้ “สี” สำคัญมาก

ปริมาณหุ้นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในตลาดหุ้นที่สามารถสะท้อนระดับกิจกรรมของตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อหุ้นอยู่ในระดับสูงความต้องการซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักและมีความตั้งใจของนักลงทุนการค้าและความเชื่อมั่นของตลาดในแง่ดี ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีหุ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดซื้อขายไม่คึกคักนักลงทุนความเต็มใจในการซื้อขายลดลง ความเชื่อมั่นของตลาดมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น

- สีดัชนีตลาดหุ้นจีน จะเห็นได้ว่า หุ้นขึ้นหรือแม้แต่แท่งเทียนขาขึ้น ก็ใช้สีแดง (เครดิต: 中国基金报) -

วิธีเอาตัวรอดนั้นมีมากมาย แต่เราจะสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ดังนี้

สีเขียว = หลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะมีการไล่เฉดสีจากเขียวอ่อนไปจนเขียวเข้ม ตีความหมายได้ว่าสีอ่อนจะมี % การเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสีเข้มนั่นเอง

– เมื่อจบวัน ราคาเท่ากับราคาเปิด แท่งเทียนเป็นสีเหลือง

– เมื่อจบวัน ราคาลงต่ำกว่าตอนเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง

"ต่างชาติจริง ๆ พวกนี้เขาไม่ได้มีอะไรหรอก webpage เขาก็บินไปทั่วโลก ดูว่าที่ไหนดี ให้ผลตอบแทนดี เขาก็ไป ไม่เหมือนคนไทย การจะออกไปนอกประเทศมันยุ่ง ต้องแลกเปลี่ยนเงินบาทขาดทุน แต่ต่างชาติพวกนี้เขาไปบ่อย เขาบินไปทั่วโลก เขาไปมานานแล้ว เขาจะดูว่าประเทศไหนกำลังรุ่ง และก็ดูภาพยาว"

จึงต้องทำความเข้าใจว่า "โลกสมัยใหม่ ตลาดหุ้น คือ หัวใจของเศรษฐกิจ"

คนส่วนใหญ่ซื้อขายหุ้นตัวไหน? นักลงทุนหลายคนคงอยากรู้ การนั่งไล่ดูหุ้นทีละตัว อาจใช้เวลานาน กว่าจะรู้ว่าหุ้นไหนเขียว หุ้นไหนแดงอาจทำให้พลาดโอกาสทำกำไร

นอกจากนี้ จีนมีสำนวนสำคัญหนึ่ง คือ “ไต้ลวี่เม่า” (戴绿帽) ซึ่งแปลว่า “สวมหมวกสีเขียว” อันหมายถึง การโดนสวมเขาหรือถูกคนรักนอกใจ ดังนั้นจึงเป็นข้อระวังว่า ไม่ควรซื้อหมวกสีเขียวเป็นของฝากให้ชาวจีน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *